การรักษาและป้องกันโรคปอดและโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ

ทางออกในการฟื้นฟูปอดที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

หน้าแรก >> แพทย์ >> ศาสตราจารย์ Tobias Welte 

วัณโรค มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง... มีวิธีที่ถูกค้นพบเพื่อช่วยฟื้นฟูเซลล์ปอดที่เสียหาย และสนับสนุนการทำงานของปอดให้ดีขึ้น

ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอ: อาการไอ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ และหายใจลำบาก ไอเป็นเลือด—สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงเกี่ยวกับปอด เช่น วัณโรค ถุงลมโป่งพอง หรือมะเร็งปอด และยังเป็นสาเหตุของความทุกข์ทั้งทางร่างกายและการเงิน—เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วย

ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โรคปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
โรคปอดเป็นหนึ่งในภาระด้านสุขภาพระดับโลกที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน:

มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

มีผู้เสียชีวิต 1 คนในทุก ๆ 30 วินาทีจากโรคหืด ปอดบวม หรือมะเร็งปอด

มลพิษทางอากาศ การสูบบุหรี่ และสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ คือ "ฆาตกรเงียบ" ที่ค่อย ๆ บ่อนทำลายปอดของผู้คนนับพันล้านคนอย่างเงียบ ๆ

ในประเทศไทย โรคปอดก็เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน:
มากกว่า 20% ของประชากรสูบบุหรี่ – ทำให้ประเทศของเราเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเป็นโรคปอดสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ส่งผลกระทบต่อประชากรวัยผู้ใหญ่ 12–21% โดยส่วนใหญ่พบในพื้นที่เขตเมืองที่มีมลพิษ
มะเร็งปอดและโรคปอดบวมเฉียบพลัน เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในกลุ่มโรคไม่ติดต่อ
มลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่เกินระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำอย่างมาก – ซึ่งส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการเสื่อมสมรรถภาพของปอดเพิ่มสูงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากไม่มีมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุขที่รุนแรงในอนาคตอันใกล้

พวกเราโชคดีที่มีโอกาสได้พบและสัมภาษณ์ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอเกี่ยวกับภาวะเหล่านี้ ขณะที่เขาเดินทางมาติดต่อธุรกิจเป็นเวลานานร่วมกับเพื่อนร่วมงานในประเทศไทย

ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอ (ประเทศเยอรมนี) – ประธานสมาคมระบบทางเดินหายใจแห่งยุโรป (ERS) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านระบบทางเดินหายใจ
ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮันโนเวอร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และการดูแลผู้ป่วยหนักด้านระบบทางเดินหายใจ

ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอ มีประสบการณ์ด้านระบบทางเดินหายใจกว่า 35 ปี
เขาเริ่มต้นอาชีพแพทย์ที่โรงพยาบาล Kreiskrankenhaus Lehrte และต่อมาย้ายไปที่โรงเรียนแพทย์ฮันโนเวอร์ (Hannover Medical School)
เขาเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์โรคปอดและการดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่มหาวิทยาลัยแมกเดบูร์ก ก่อนจะกลับมาที่ MHH ในปี 2004
ที่นั่น เขาได้สร้างแผนกระบบทางเดินหายใจที่มีความเป็นเลิศทั้งด้านการรักษาทางคลินิกและงานวิจัย โดยเฉพาะในด้านการปลูกถ่ายปอด

🏆 ความสำเร็จที่โดดเด่น:
รางวัล:
รางวัลบัลซาน (Balzan Prize) ปี 2019 ร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่ศูนย์วิจัยโรคปอดแห่งเยอรมนี (DZL) สำหรับผลงานที่โดดเด่นด้านการวิจัยโรคระบบทางเดินหายใจ
รางวัลบรรยายซาดูล (Sadoul Lecture Award) ปี 2023 จากสมาคมระบบทางเดินหายใจแห่งยุโรป (ERS) เพื่อเป็นเกียรติแก่เส้นทางอาชีพและผลงานของเขาในด้านเวชศาสตร์ระบบทางเดินหายใจ

ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอ และเพื่อนร่วมงานในประเทศไทย

สวัสดีครับ/ค่ะ ศาสตราจารย์
ข้าพเจ้าเข้าใจว่าในระหว่างการเดินทางเพื่อปฏิบัติงานที่ประเทศไทย
นอกจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแพทย์ในประเทศแล้ว
ท่านยังได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในหลักสูตรอบรม
และแนะนำแพทย์รุ่นใหม่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
ท่านช่วยเล่าเพิ่มเติมอย่างละเอียดได้ไหมครับ/คะ
เพื่อให้พวกเราซึ่งเป็นผู้อ่านและผู้ป่วย
เข้าใจถึงความสำคัญและอันตรายของโรคปอดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น?

เท่าที่ฉันทราบ มีโรคมากมายที่เกี่ยวข้องกับปอดและระบบทางเดินหายใจ
ศาสตราจารย์ช่วยอธิบายโรคแต่ละชนิด
พร้อมกับอาการและสัญญาณเตือน
เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลและสามารถตรวจสอบตัวเองได้หรือไม่ครับ/คะ?

ภาพของโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยล้นเกิน

อาการใดที่มักถูกเข้าใจผิดแต่จริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณของโรคปอด

หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคต่าง ๆ ข้างต้นอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอะไรได้บ้าง?

จริงหรือ? ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผลลัพธ์จะรุนแรงได้ขนาดนี้

- ศาสตราจารย์ Tobias Welte

ฉันเคยเห็นผู้ป่วยจำนวนมากที่รู้ว่าตนเองป่วยแต่ไม่ไปพบแพทย์ ปล่อยให้โรครุนแรงขึ้นและแสดงอาการอันตรายก่อนจึงค่อยไปหาหมอ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็มักจะสายเกินไปแล้ว โครงสร้างของปอดได้รับความเสียหายอย่างถาวรและไม่สามารถฟื้นฟูได้ ทำให้สูญเสียการทำงานอย่างถาวร และในระยะลุกลาม ผู้ป่วยต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ ความประมาทคือสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต

- ศาสตราจารย์ Tobias Welte

- ศาสตราจารย์ Tobias Welte

คนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ มักมีสาเหตุมาจากการสัมผัสกับสารอันตรายหรือไวรัส ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและเกิดการอักเสบเรื้อรัง สาเหตุหลักมาจากการที่ร่างกายขาดสารอาหารจำเป็นที่มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และซ่อมแซมเนื้อเยื่อปอด.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน การเสริมสารอาหารที่ช่วยบำรุงปอด ลดการอักเสบของปอด และป้องกันการติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น สารอาหารสำคัญ เช่น นาโนเคอร์คูมิน แลคโตเฟอริน และวิตามิน A, B1, B9 และ B12 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพปอด.





ในปัจจุบัน วิธีเดียวที่จะเสริมสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วนคือการใช้ LungBoost ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบและได้รับการแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา LungBoost ไม่เพียงแต่ปกป้องปอด แต่ยังช่วยสนับสนุนสุขภาพทางเดินหายใจในระยะยาวอีกด้วย

ศาสตราจารย์โทเบียส เวลเทอ กล่าวไว้ว่า:

ฉันคิดว่าคำถามที่สำคัญที่สุดคือเราจะกำหนดแผนการรักษาสำหรับแต่ละบุคคลได้อย่างไร และต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัว นอกจากนี้ เรายังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างไร?

1. แผนการรักษาสำหรับแต่ละภาวะเฉพาะ
- ตามคำแนะนำของกรมอนามัยสหรัฐฯ บุคคลที่มีอายุเกิน 37 ปีและมีอาการเกี่ยวกับปอด เช่น หายใจสั้น ไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะ หายใจเสียงหวีดหรือแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอกเวลาหายใจลึก ปวดศีรษะ มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหงื่อออกกลางคืนมาก และน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว ควรปฏิบัติตามแผนการรักษาด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 3 ถึง 5 กระป๋อง รับประทานวันละ 2 ครั้งหลังอาหาร สำหรับผู้ที่มีภาวะปอดเรื้อรังนานเกิน 4 เดือนร่วมกับอาการหายใจสั้น แนะนำให้รับประทานต่อเนื่อง 5 ถึง 10 กระป๋อง การปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้เห็นผลได้เร็วและดีที่สุด

2. LungBoost ไม่ได้วางจำหน่ายในร้านขายยา
LungBoost สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพปอดได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากใช้ครบคอร์สที่เหมาะสมเพียงคอร์สเดียว โดยการใช้ 3–5 กระป๋อง ผลิตภัณฑ์จะช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินหายใจและลดความเสี่ยงของโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องใช้ยาสำหรับโรคเหล่านี้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ร้านขายยาและผู้จำหน่ายยาจึงได้รับผลกระทบโดยตรงจากยอดขายที่ลดลง—ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านขายยาไม่ต้องการอย่างแน่นอน
3. LungBoost ถูกผลิตในปริมาณจำกัดอย่างมากและต้องทำการสั่งซื้อล่วงหน้า:
- ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้นสูงของนาโนเคอร์คูมิน แลคโตเฟอริน และวิตามินสำคัญอย่าง A, B1, B9, B12 รวมถึงส่วนผสมหายากอื่น ๆ อีกทั้งยังผลิตตามมาตรฐานที่เข้มงวดของยุโรป จึงทำให้มีปริมาณการผลิตที่จำกัดมาก เหตุผลหลักที่ต้องลงทะเบียนสั่งซื้อล่วงหน้าคือเพื่อป้องกันมิจฉาชีพและพ่อค้าคนกลางนำสินค้าไปขายต่อในราคาสูงเกินจริง

ผลการวิจัยทางคลินิกหลังการใช้ผลิตภัณฑ์ครบคอร์สอย่างน้อย 3 กระป๋องในกลุ่มผู้ป่วยจำนวน 8,000 ราย

เพื่อสนับสนุนแคมเปญ “ปอดสะอาด” กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of Health and Human Services) ได้ร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดสรรผลิตภัณฑ์ LungBoost เพิ่มเติมให้แก่ผู้ป่วยทั่วโลก ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น และได้รับการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของตนเอง ความพยายามนี้สะท้อนความเชื่อมั่นที่ว่าทุกคนสมควรมีปอดที่แข็งแรง เพื่อหายใจได้อย่างอิสระ โดยปราศจากความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานจากโรคที่เกี่ยวกับปอด

ในการสั่งซื้อเพื่อรับส่วนลด กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างอย่างรอบคอบ

Discussion:

LUNGBOOST